คนท้องกินกะหล่ำปลีได้ไหม ผักที่แม่ต้องควรหลีกเลี่ยงมีอะไรบ้าง?

คุณแม่คนไหนที่กำลังสงสัยอยู่ในตอนนี้ว่า เราสามารถกินกะหล่ำปลีได้ไหม หรือมีผักชนิดไหนบ้างที่คุณแม่ท้องจะต้องหลีกเลี่ยง หรืองดจากการกินผักเหล่านี้ก่อนเพื่อที่ลูกในท้องของเราจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และไม่ได้เป็นอันตรายในระหว่างการตั้งครรภ์ หากเป็นแบบนั้นแล้วล่ะเรามาไขข้อสงสัยไปพร้อมกันเลยนะคะว่า คนท้องกินกะหล่ำปลีได้ไหม

ประโยชน์ของกะหล่ำปลีที่ไม่ได้มีดีเพียงเพราะความอร่อย!

หากใครที่ชอบกินผัก หรือไม่กินผัก ต้องบอกเลยนะคะว่ากะหล่ำปลีน่าจะเป็นผักที่ค่อนข้างกินง่าย แถมยังสามารถนำไปทำเป็นเมนูอาหารได้ค่อนข้างเยอะมากเลย และหากจะให้พูดถึงคุณประโยชน์ของผักชนิดนี้แล้วล่ะก็ บอกเลยว่าเพียบเลย หลายคนคงอยากทราบแล้วใช่ไหมคะว่ากะหล่ำปลีมีประโยชน์ยังไง หากใครพร้อมแล้วเรามาดูคุณประโยชน์กันเลยดีกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง : ผักชีลาว มีประโยชน์อะไรบ้าง ช่วยเพิ่มน้ำนมได้จริงหรือ ?

1. ช่วยต้านโรคมะเร็ง

คุณประโยชน์อย่างแรกของการกินกะหล่ำปลีเลยคือ สิ่งนี้จะช่วยต้านโรคมะเร็งให้กับเราได้ เพราะภายในตัวผักกะหล่ำปลีจะมีสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างเยอะมาก ๆ โดยสารตัวนี้จะช่วยในการเรื่องของการต้านมะเร็ง อีกทั้งยังเข้ามาช่วยบำรุงระบบเลือดและหัวใจในร่างกายของเราให้ทำงานได้ดีขึ้นเลยนะคะ

2. ช่วยต้านโรคเบาหวาน

ไม่เพียงเท่านี้การกินกะหล่ำปลียังช่วยป้องกันการเป็นโรคเบาหวานให้กับเราได้ โดยเฉพาะกะหล่ำปลีที่มีสีแดงหรือสีม่วง หากเรากินเข้าไปแล้วล่ะก็สิ่งนี้จะเข้าไปช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดให้กับเราได้ดีมาก ๆ เลย หากใครที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน หรือไม่อยากป่วยเป็นโรคเบาหวานเราก็อาจจะต้องลองกินกะหล่ำปลีกันดูได้เลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคเบาหวาน (Diabetes) สาเหตุ อาการ และความเชื่อผิด ๆ

3. ช่วยป้องกันโรคอ้วน

หากใครที่ไม่อยากเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน หรือไม่อยากมีน้ำหนักที่เกินกว่าเกณฑ์กำหนด เราก็อาจจะต้องหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพด้วยการกินผักที่ดีมีประโยชน์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็อาจจะรวมไปถึงการกินกะหล่ำปลีตามไปด้วยได้เลยนะคะ บอกเลยว่าคุณประโยชน์เพียบเลยล่ะค่ะ

4. ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

นอกจากนี้การกินกะหล่ำปลี ผักชนิดนี้ยังเข้าไปเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราได้ดีมาก ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน หากใครที่อยากเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ และเป็นคุณแม่ที่ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเราก็อาจจะต้องกินผักที่มีประโยชน์อย่างกะหล่ำปลีกันด้วยนะคะ

คนท้องสามารถกินกะหล่ำปลีได้ไหม?

สำหรับคำถามที่ว่าแม่ท้องสามารถกินกะหล่ำปลีได้ไหม ต้องบอกว่าผักกะหล่ำปลีเป็นผักที่คุณแม่ท้องสามารถกินได้ แต่ในการกินผักชนิดนี้คุณแม่อาจจะต้องกินในรูปแบบที่ผ่านการปรุงสุกมาแล้ว รวมถึงเราอาจจะต้องทำการล้างผักให้ดี ๆ ก่อนที่เราจะกินเข้าไป เพราะผักชนิดนี้ค่อนข้างมีประโยชน์และเต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญไม่แพ้กับผักชนิดอื่น ๆ และอย่างที่รู้กันดีว่าผักชนิดนี้อาจจะเป็นผักที่มีประโยชน์ก็จริง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราไม่รู้จักวิธีการกินผักชนิดนี้ได้อย่างถูกต้อง จากที่จะเป็นประโยชน์ ก็อาจจะเป็นโทษทั้งต่อตัวเราและลูกได้ ดังนั้นอาจจะต้องระวังในเรื่องนี้กันด้วยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 ผักใบเขียว ดีต่อแม่ท้อง วิตามินสูง กินแล้วมีประโยชน์

อันตรายที่อาจมาพร้อมกับการกินกะหล่ำ

หลายคนอาจจะพอทราบกันดีอยู่แล้วว่า หากเรากินผักชนิดนี้ไป โดยที่ไม่ได้ทำการศึกษารายละเอียด หรือดูสิ่งต่าง ๆ ให้ดีซะก่อน ผักชนิดนี้ก็อาจจะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพของเราได้ โดยเฉพาะใครที่ชอบกินกะหล่ำปลีแบบดิบ ๆ บอกเลยนะคะว่าพฤติกรรมเหล่านี้ค่อนข้างเสี่ยงต่อการเป็นอันตรายอยู่เหมือนกัน เพราะในตัวกะหล่ำปลีจะมีสารชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า “กอยโตรเจน ” (Goitrogen) หากร่างกายได้รับเข้าไป สิ่งนี้จะเข้าไปขัดขวางหรือทำลายไม่ให้ร่างกายของเราสามารถนำสารที่ดีต่าง ๆ ในร่างกายไปใช้ได้ และหากใครที่กินกะหล่ำปลีในปริมาณที่มากจนเกินไป ผลที่ตามมาก็อาจจะทำให้เรามีอาการท้องอืดเกิดขึ้นได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราก็อาจจะต้องระวังในเรื่องนี้ด้วยนะคะ

เคล็ดลับการล้างผักอย่างไร? ให้ปลอดภัยไร้สารตกค้าง

ก่อนที่เราจะนำผักกะหล่ำปลีมาประกอบทำเป็นเมนูอาหารนั้น หากจะให้ปลอดภัยมากขึ้น เราจะต้องรู้จักขั้นตอนการล้างผักกะหล่ำปลีได้อย่างถูกต้อง เพื่อที่จะได้ไม่มีสารตกค้าง หรือสิ่งต่าง ๆ เจือปน ส่วนจะต้องทำอย่างไรกันมานั้น มาดูไปพร้อมกันเลยนะคะ

1. ทำการแช่น้ำ

สิ่งที่เราอาจจะต้องคำนึงถึงเป็นอย่างแรกของการล้างผักเลยคือ เราจะต้องทำการล้างผักในรอบแรกก่อน จากนั้นให้เราทำผักที่ล้างในรอบแรกแล้ว มาทำการแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เพื่อที่สิ่งนี้จะช่วยชำระล้างสารพิษที่อาจปนเปื้อนมากับผักได้นะคะ

2. ล้างผักผ่านน้ำไหล

สำหรับการล้างผักผ่านน้ำไหลนั้น เราอาจจะต้องทำการล้างผ่านก๊อกเป็นเวลาประมาณ 2 – 5 นาที จากนั้นก็ค่อย ๆ ใช้มือถูบริเวณผักเบา ๆ ซึ่งต้องบอกว่าวิธีนี้เป็นการช่วยลดสารพิษที่มาจากยาฆ่าแมลงได้ดีเลยทีเดียว

3. ทำการแช่น้ำเกลือ

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับการล้างผักอีกหนึ่งวิธีเลยคือ การนำผักมาแช่ในเกลือ ซึ่งวิธีนี้ให้เรานำเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำประมาณ 4 ลิตร จากนั้นให้เรานำผักไปทำการแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที เมื่อครบเวลาที่กำหนดให้เรานำผักที่ผ่านการแช่น้ำเกลือแล้ว มาล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 1 รอบ เพียงเท่านี้ผักของเราก็จะสะอาดปลอดสารพิษมากขึ้นเลยล่ะค่ะ

4. แช่น้ำซาวข้าว

สำหรับบางคนก็อาจจะทำการแช่ผักด้วยน้ำซาวข้าวได้เลย โดยเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการนำน้ำซาวข้าวมาเทใส่ลงไปในภาชนะ จากนั้นให้เรานำผักไปแช่ในน้ำซาวข้าวเป็นเวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ บอกเลยว่าผักที่เราจะนำมาประกอบอาหารนั้นจะต้องปลอดสารพิษแน่นอน

5. แช่น้ำปูนใส

สำหรับบางคนก็อาจจะนำผักมาแช่ลงไปในน้ำปูนใสได้ ซึ่งต้องบอกว่าวิธีนี้จะช่วยลดปริมาณสารพิษที่อยู่ในผักได้ดีมาก ๆ เลย ซึ่งระยะเวลาในการแช่ผักนั้น เราจะแช่เพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น จากนั้นก็นำไปล้างน้ำเปล่าตามปกติได้เลยนะคะ

6. ล้างด้วยน้ำส้มสายชู

วิธีนี้น่าจะเป็นหนึ่งในวิธีที่ใครหลายคนทำบ่อย โดยให้เรานำน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่ามาผสมกันในอัตรา 1 ต่อ 10 เมื่อทำการผสมกันเรียบร้อยแล้ว ให้เรานำผักมาแช่เป็นเวลาประมาณ 10 – 15 นาที เมื่อครบเวลาที่กำหนดให้เรานำมาล้างด้วยน้ำเปล่าอีกรอบ เพียงเท่านี้เราก็จะได้กินผักที่ปลอดสารพิษมาก ๆ เลย

หลังจากที่เราได้พาคุณแม่มาทำความรู้จักกับกะหล่ำปลีกันให้มากขึ้นแล้วนั้น ต้องบอกว่าอย่าพึ่งกลัว หรือคิดมากจนเกินไปนะคะ เพราะผักชนิดนี้เป็นผักที่มีประโยชน์และคุณแม่ท้องสามารถกินได้ตามปกติเลย เพียงแค่เราอาจจะต้องล้างทำความสะอาดให้ดี ๆ และควรกินในรูปแบบที่ปรุงสุกมาแล้วจะดีกว่าค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

คนท้องกินผักบุ้งได้ไหม ผักชนิดนี้มีคุณค่ามากกว่าที่คิด!

คนท้องกินสะเดาได้ไหม สรรพคุณของผักสะเดามีอะไรบ้าง? มาดูกัน

ทำอย่างไร? เมื่อแม่ท้องอยากกินขนม คนท้องกินผักอบกรอบได้ไหม มีประโยชน์หรือเปล่า

ที่มา : 1, 2